โจรสุดใจเย็นต้มบะหมี่-ดื่มกาแฟ ก่อนกวาดทรัพย์เกลี้ยง
โจรเมืองพิษณุโลกสุดใจเย็นงัดบ้านเข้ากวาดทรัพย์ แต่ก่อนลงมือต้มบะหมี่สำเร็จรูป ต้มกาแฟกิน เผยบ้านเคยถูกงัดมาแล้วกว่า 10 ครั้ง เพราะเจ้าของต้องไปดูแลญาติอีกจังหวัดหนึ่ง ด้านตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนละแวกเดียวกัน เพราะรู้เวลาเข้าออกเป็นอย่างดี
เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา พ.ต.ต.วิสุทธิ์ คล้ายแสง สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายงัดบ้านพัก บริเวณถนนพระองค์ขาว ซอย 10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากได้รับแจ้งแล้ว จึงได้รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการ โดยพบว่าบ้านหลังเกิดเหตุอยู่เลขที่ 73/63 ถนพระองค์ขาว ซอย 10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก มี นางพรรณสิริ พัฒนพงษ์ อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ใน
นางพรรณสิริ ผู้เสียหายได้ให้การว่าเป็นอดีตพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งในจ.พิษณุโลก ต่อมาได้ซื้อบ้านหลังที่เกิดเหตุไว้นานกว่า 10 ปีแล้ว ภายหลังลาออกจากงาน และไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้าน เพราะต้องไปดูแลญาติที่จ.พิจิตร ก่อนเกิดเหตุเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ได้โทรศัพท์ไปบอกกับตนว่า เห็นหน้าต่างหลังบ้านเปิด เกรงว่าคนร้ายงัดเข้าไปลักทรัพย์ ตนจึงย้อนกลับมาตรวจสอบ และพบหน้าต่างหลังบ้านถูกคนร้ายงัดเหล็กดัด บานหน้าต่างหลังบ้านแล้วเข้าไปรื้อขนเอาทรัพย์สิน บริเวณชั้นบน และชั้นล่างจนข้าวของกระจายเกลื่อนบ้าน
นางพรรณสิริ ยังกล่าวอีกว่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปนั้น ตรวจสอบเบื้องต้นประกอบด้วย กล้องดิจิทัล จำนวน 1 ตัว ราคาประมาณ 1 หมื่นบาท และ พระเครื่อง-พระบูชาอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 2 หมื่นบาท โดยเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ยังเคยถูกคนร้ายงัดเข้าไปลักทรัพย์สิน มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เนื่องจากไม่มีคนพักอาศัยอยู่ในบ้าน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ได้พบรอยนิ้วมือคาดว่าเป็นของคนร้าย จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในบ้านยังพบถ้วยชามที่คนร้ายใช้ต้มบะหมี่สำเร็จรูปรับประทาน รวมทั้งถ้วยกาแฟที่ผ่านการใช้มาไม่นาน คาดว่าคนร้ายรายนี้ ได้ต้มบะหมี่ และชงกาแฟดื่ม ขณะค้นหาทรัพย์สิน จึงเก็บรวบรวมวัตถุที่คาดว่าคนร้ายได้สัมผัส เพื่อเก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย นำไปเป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้าย น่าจะเป็นคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากทราบดีว่าไม่มีคนอยู่บ้าน จึงได้ลงมือก่อเหตุอย่างใจเย็นถึงขั้นต้มบะหมี่และชงกาแฟกิน
ที่มา : คม ชัด ลึก