10แอพฟังเพลง โหลดเพลง

แนะนำแอพพลิเคชันสำหรับฟังเพลง โหลดเพลง ทางเลือกให้หลายคนที่ชอบเพลงหลากหลายแนว

1. Spotify

แอพฟังเพลงอย่าง Spotify ที่ตอนนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีเพลงเยอะแยะมากมาย ทั้งในกระแสและนอกกระแส มีการจัดเพลย์ลิสต์ได้เอง แชร์กับเพื่อนก็ได้ ส่วนตัวก็ดี ทำได้ตามใจชอบเลย ในส่วนของการฟังเพลง ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีใช้ได้เลย สามารถใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ แต่ Spotify นั้น ไม่ใช่แอพสำหรับฟังเพลงที่สามารถฟังกันได้ฟรี ๆ เพราะจะต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน โดยเราสามารถหารกับเพื่อนได้ ประมาณ 2-4 คน ก็ตกคนละประมาณ 30-50 บาท ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ โดยเฉพาะกับใครที่ชอบฟังเพลงอยู่เป็นประจำ แต่ล่าสุดนั้น ทาง Spotify เองก็ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์สำหรับ Free User สามารถใช้งานกันฟรี ๆ ได้แล้ว แต่ก็ต้องแลกมากับการเจอโฆษณาคั่นระหว่างเพลง ซึ่งถ้าใครโอเคก็ฟังได้สบาย ส่วนถ้าใครอยากฟังเพลงลื่น ๆ

2. Joox

เพลงเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมเพลงนอกกระแสหรือเพลงเก่า ๆ ทั้งหมด ส่วนใหญ่ก็จะมีเพลงยอดฮิตที่ติดตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ มีเพลย์ลิสต์ที่จัดเข้าหมวดหมู่รวมกัน ทั้ง เศร้า รัก โรแมนติก ติดกระแส ฯลฯ มากมาย ซึ่งถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ โดยเฉพาะกับคนชอบฟังเพลงฟรี แต่ก็จะหงุดหงิดใจนิดหน่อยกับโฆษณาที่ชอบมาคั่นระหว่างเพลง ปัญหานี้แก้ได้ง่าย ๆ สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงิน ก็คือ แชร์เพลงหนึ่งเพลง ลงโซเชียลมีเดียร์ เราก็จะได้รับสิทธิ์ VIP เป็นเวลา 1 วัน สามารถฟังเพลงได้โดยไม่มีโฆษณามาคั่น แต่ถ้าใครขี้เกียจแชร์เพลง ก็แนะนำว่า สมัครรายเดือนไปเลย เพราะจะได้ไม่ต้องมีโฆษณามาขัดจังหวะอารมณ์สุทรีย์

3. Apple Music

แอพนี้เรียกว่าเป็นแอพคู่บุญกับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ iOS เลย เพราะเป็นแอพของทาง Apple เอง ที่เปิดให้บริการดาวน์โหลดซื้อเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงเต็มสำหรับการฟังเพลง หรือจะเป็นเพลงที่ตัดท่อนแล้ว เพื่อใช้สำหรับเป็นเสียงเรียกเข้า เพลงที่มีนั้นก็จะเป็นเพลงใน iTunes Store ซึ่งเป็นตลาดเพลงระดับโลก สำหรับคนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple ก็จะมีตัวแอพติดเครื่องมาให้ ส่วนผู้ใช้งาน Android ก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้เช่นกัน ข้อดีมาก ๆ ของ Apple Music เลยก็คึอมีเพลงเยอะ มีทุกแนว และเป็นเพลงที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ด้วย มีฟีเจอร์การนำเนื้อเพลงไปเสิร์ชหาเพลงได้ด้วย แต่สิ่งที่ต้องสังเกตสำหรับแอพนี้ก็คือ โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเพลงตลาด ใครที่ชอบฟังเพลงอินดี้นอกกระแส แอพตัวนี้ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์มาก

4. Tidal Music

เป็นแอพฟังเพลงที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก คมชัดระดับเทพ ให้เสียงระดับ HiFi (High Fidelity) ทำให้เสียงที่ออกมานั้นมีความเพี้ยนน้อยมาก ทำให้นักฟังเพลงหลาย ๆ คนเลือกใช้งานแอพนี้เป็นมากกว่าแอพอื่น เพลงที่มีก็มีมากมายหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าใครชอบฟังเพลงต่างประเทศ หลากหลายแนว ก็แนะนำมาก ๆ เลย นอกจากนี้ก็ยังมีมิวสิควิดีโอ มีคอนเสิร์ต ให้ได้เลือกดูกันด้วย แต่บางเพลงนั้นก็ไม่ได้เปิดให้ฟังกันได้ฟรี ๆ เราต้องสมัครสมาชิกและเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งรวมไปถึงการดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ด้วย

5. Youtube Music

เป็นแอพพลิเคชันที่แยกออกมาจากแอพ Youtube ซึ่งมีจุดประสงค์ที่ทำขึ้นมาเพื่อให้คนที่ชอบฟังเพลงโดยเฉพาะ ข้อดีของแอพตัวนี้เลยคือ เราสามารถฟังเพลงจาก Youtube ได้เลย แม้กระทั่งปิดหน้าจอ แต่ก็มีข้อแม้ว่าเราจะต้องสมัครสมาชิก Youtube Premium ก่อนนั่นเอง ซึ่งใครที่ชอบฟังเพลงจาก Youtube นั้นก็ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ เพราะเพลงจาก Youtube ถือว่ามีเยอะมาก ๆ ทุกแนว ทั้งในกระแส นอกกระแส เพลง Fan Made, เพลง Cover ฯลฯ เยอะแยะมากมาย ถือว่าตอบโจทย์อย่างกว้างสุด ๆ สำหรับการฟังเพลงเลยทีเดียว และนอกจากฟังเพลงแล้ว เราก็สามารถดูมิวสิควิดีโอเพลงได้เลยผ่านทางแอพ Youtube Music นี้

6. Deezer

เรียกได้ว่าเป็นแอพฟังเพลงแอพแรก ๆ เลย ที่เข้ามาในไทย ผ่านการทำตลาดของ DTAC และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต โดย Deezer นั้นเป็นแอพสตรีมมิ่งเพลงที่มาจากประเทศฝรั่งเศส มีเพลงให้เราเลือกฟังมากมาย ทั้งเพลงไทยและต่างประเทศ โดยสามารถดาวน์โหลดตัวแอพมาฟังเพลงได้ฟรี และมีระบบสมาชิกที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน ตัวแอพมีฟีเจอร์การติดตามศิลปินโปรดที่กดหัวใจไว้ เมื่อเวลาที่มีเพลงใหม่เข้ามา ก็จะแจ้งเตือนเราทันที เรายังสามารถแชร์เพลงที่เราชอบไว้บนหน้าโปรไฟล์ เพื่อให้เพื่อนได้ฟังได้ด้วย หรือจะแชร์ให้กับคนพิเศษก็ทำได้เหมือนกัน สำหรับในเวอร์ชันฟรีนั้น ก็จะคล้ายแอพอื่น ๆ คือสามารถฟังได้ แต่จะมีโฆษณษามาคั่นระหว่างเพลงบ้างเป็นระยะ หรือใครที่ชอบกดข้ามเพลง ก็อาจรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะตัวแอพกำหนดมาให้เราสามารถกดข้ามเพลงได้เพียงเดือนละ 6 เพลงเท่านั้น

7. Fungjai

ที่เปิดตัวมาในรูปแบบของเว็บไซต์ที่เป็นพื้นที่สำหรับนักแต่งเพลง นักร้อง ศิลปินเพลงอินดี้นอกกระแส ที่ต่อมาก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มที่นิยมเพลงอินดี้ จุดเด่นที่สุดของแอพนี้เลยก็คือ เป็นแอพที่รวมเพลงไทยอินดี้จากศิลปินไทย ไม่ว่าจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง หรือวงอินดี้ที่อยากมีพื้นที่ในการแสดงฝีมือและผลงาน ได้สามารถลงเพลงและเปิดให้ฟังกันได้ผ่านแอพพลิเคชัน แอพ Fungjai นี้เป็นแอพที่เปิดให้บริการกันแบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ตัวแอพก็มีหน้าตาที่น่ารัก เข้าถึงง่าย รับรองว่าถูกใจสายอินดี้แน่นอน

8. Soundcloud

ตัวต่อมาที่อยากจะแนะนำก็คือ Soundcloud เป็นอีกแอพพลิเคชันที่ได้รับความนิยมไม่แพ้แอพอื่น ๆ ที่ได้แนะนำกันไปเลย ตัวแอพเป็นแอพลที่เปิดกว้างสำหรับคนทำเพลง ที่ไม่ว่าใครที่ทำเพลงก็สามารถที่จะเอาเพลงมาอัพโหลดขึ้นไปบน Soundcloud ได้เลย ทำให้เพลงที่อยู่ในแอพนั้นค่อนข้างมีความหลากหลาย นอกจากนั้นยังอาจมี Hidden Track ของเพลงต่าง ๆ ที่ไม่ได้หาฟังกันได้ทั่วไปด้วย ใครที่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ฟังเพลงใหม่ ๆ ที่นอกเหนือไปจากเพลงตลาด หรือเพลงตามกระแส แอพนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลย หรือใครที่อยากทำเพลงของตัวเองแล้วอยากมีพื้นที่ที่จะแสดงผลงาน Soundcloud ก็จะเป็นพื้นที่ให้ได้แสดงผลงานของเรานั่นเอง

9. Tune in Radio

ไม่ได้เป็นแอพสำหรับการสตรีมมิ่งเพลง แต่เป็นแอพที่ออกแนวคล้าย ๆ วิทยุ ที่ได้รวบรวมคลื่นวิทยุดัง ๆ จากทั่วไว้ภายในแอพเดียว ซึ่งนอกจากที่เราจะได้ฟังเพลงผ่านคลื่นวิทยุดัง ๆ แล้ว เราก็ยังสามารถรับฟังข่าวสาร เรื่องราวต่าง ๆ ที่คลื่นวิทยุนั้น ๆ นำเสนอได้อีกด้วย และนอกจากจะได้ฟังคลื่นวิทยุดัง ๆ จากทั่วโลกแล้ว ตัวแอพยังมีฟังก์ชันในการแนะนำคลื่นวิทยุยอดนิยมของแต่ละประเทศให้ด้วย แถมยังสามารถบันทึกรายการโปรดที่ชอบได้ด้วย ตัวแอพนอกจากจะตอบโจทย์การฟังเพลงสำหรับใครที่ชอบสไคล์การฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ตามที่คลื่นจะเปิดแล้ว ยังสามารถช่วยในการฝึกภาษาได้ด้วย เพราะเป็นคลื่นวิทยุยอดฮิตจากทั่วโลกนั่นเอง

10. 4Shared

สำหรับแอพพลิเคชันนี้ อาจไม่ใช่แอพฟังเพลงโดยตรง แต่จะเป็นแนวโหลดเพลงมาเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์เสียมากกว่า กับ 4Shared ที่ใครหลายคนต่างก็คุ้นเคย ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟน ที่การฟังเพลงนั้นจะต้องดาวน์โหลดไฟล์จากอินเทอร์เน็ตมาเก็บไว้ฟังในเครื่องเล่นเพลง MP3, MP4 หรือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาสักพักแล้ว แต่ 4Shared ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ และยังสามารถดาวน์โหลดเพลง มิวสิควิดีโอ มาเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้ ตัวแอพ 4Shared มีพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลมาให้จำนวน 15GB ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ฟัง โดยเฉพาะกับเพลงโปรดของเรา ให้เราได้ฟังได้จากทุกที่ เข้าถึงได้ทุกเวลา แม้จะเป็นพื้นที่อับสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ตาม และนอกจากเพลงแล้ว ก็ยังมีไฟล์ต่าง ๆ ให้เราได้ดาวน์โหลดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพ หนังสือ วิดีโอ โปรแกรม ฯลฯ โดยเราสามารถค้นหาชื่อได้ภายในแอพได้เลย

ที่มา: notebookspec