1. Shotcut

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่สามารถทำงานได้หลากหลาย สนับสนุนไฟล์เสียงและวิดีโอทุกรูปแบบ โดยโปรแกรมนี้ค่อนข้างแตกต่างจากโปรแกรมตัดต่อตัวอื่นคือเป็นโปรแกรม Open Source และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ

จุดเด่นของโปรแกรม Shotcut

• มีฟีเจอร์ครบ หากเปรียบเทียบกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบฟรีด้วยกัน Shotcut ถือเป็นโปรแกรมที่มีฟีเจอร์รองรับการใช้งานจำนวนมาก สามารถจัดการได้ทั้งงานตัดแต่งวิดีโอ ปรับโทนสี ปรับคุณภาพของวิดีโอ และใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ
Shotcut เหมาะกับผู้ใช้งานกลุ่มไหน?
• ผู้ที่อยากเริ่มต้นเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอ หรือผู้มือสมัครเล่นที่ต้องการตัดต่อวิดีโอให้ได้ผลงานอย่างมืออาชีพ รวมถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ใช้งานทั่วไป
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, macOS, Linux

2. VSDC Free Video Editor

VSDC เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี ที่พัฒนาโดยทีมงานจากประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับความนิยมมายาวนาน ตัวโปรแกรมใช้ในการสร้างวิดีโอทุกรูปแบบ สามารถใส่เอฟเฟกต์ พร้อมตัดต่อวิดีโอได้อย่างไร้ขีดจำกัด

จุดเด่นของโปรแกรม VSDC

• เป็นโปรแกรมที่กินทรัพยากรเครื่องต่ำ เมื่อเทียบกับโปรแกรมตัดต่ออื่นๆ ซึ่งแม้คอมพิวเตอร์ของคุณมีสเปกธรรมดา ก็สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นและรวดเร็ว
• มีฟีเจอร์เพียงพอสำหรับการสร้างสรรค์งานวิดีโอระดับคุณภาพ ไม่ว่าจะตัดต่อภาพ เสียง แปลงไฟล์ หรือเอฟเฟกต์พื้นฐาน ก็เลือกใช้งานได้อย่างสะดวก
VSDC เหมาะกับผู้ใช้งานกลุ่มไหน?
• กลุ่มนักเรียน นักศึกษา นักการตลาด และผู้ใช้งานทั่วไป
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows

3. Davinci Resolve

Davinci Resolve เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ สำหรับการแก้ไขสี การตัดต่อวิดีโอ เอฟเฟกต์ภาพ และขั้นตอนหลังการผลิตเสียงโปรแกรมนี้มีเครื่องมือขั้นสูงสำหรับการจัดเกรดสี รวมถึงการลดสัญญาณรบกวน การแก้ไขเลนส์ และการติดตาม 3 มิติ นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เฟซการแก้ไขที่ทรงพลัง รองรับหลายไทม์ไลน์นอกจากนี้ยังมีชุดตัดต่อเสียงในตัว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและตัดต่อเสียง ใช้เอฟเฟกต์ ปลั๊กอิน และใส่เพลงประกอบได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการส่งออกที่หลากหลาย รวมถึงการอัปโหลดโดยตรงไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมอย่าง YouTube

จุดเด่นของโปรแกรม Davinci Resolve

• ฟีเจอร์ปรับแต่งสีของวิดีโอที่เหนือกว่าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด มีความสวยงาม โดดเด่นมีเอกลักษณ์ โดย Davinci Resolve เป็นที่ยอมรับในด้านเครื่องมือการให้เกรดสีขั้นสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์
• โปรแกรมมีส่วนต่อประสานการแก้ไขที่ทรงพลัง รองรับหลายไทม์ไลน์ ไทม์ไลน์ที่ซ้อนกัน และการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
• เอฟเฟกต์ภาพและเครื่องมือการรวมภาพที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอฟเฟกต์และแอนิเมชันที่ซับซ้อนได้
• มีชุดแก้ไขเสียงในตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและแก้ไขเสียง ใช้เอฟเฟกต์และปลั๊กอิน และผสมเพลงประกอบได้อย่างง่าย
Davinci Resolve เหมาะกับผู้ใช้งานกลุ่มไหน?
• นักตัดต่อวิดีโอมืออาชีพ นักตัดต่อภาพยนตร์ ตัดต่องานโฆษณา เอเจนซี และผู้ใช้งานทั่วไป
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, macOS, Linux

4. HitFilm Express

Hitfilm Express เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอและเอฟเฟกต์ภาพแบบฟรี ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ออกแบบมาสำหรับนักตัดต่อวิดีโอมือสมัครเล่นและมืออาชีพ พร้อมคุณสมบัติขั้นสูงมากมายสำหรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูง

จุดเด่นของโปรแกรม HitFilm Express

• เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ขึ้นชื่อว่ามี User Interface ที่ใช้งานง่าย การดีไซน์ฟังก์ชันต่างๆ เข้าใจง่าย
• แม้จะเป็น Free Version แต่ก็ยังมีฟีเจอร์การใช้งานเจ๋งๆ มากมาย นอกจากฟีเจอร์สำหรับตัดต่อภาพและเสียงพื้นฐานที่มีให้เลือกใช้แบบจุใจแล้ว ยังสามารถสร้างงานที่ซับซ้อนแบบ 3D ได้อีกด้วย
HitFilm Express เหมาะกับผู้ใช้งานกลุ่มไหน?
• นักตัดต่อวิดีโอมืออาชีพ นักตัดต่อภาพยนตร์ ตัดต่องานโฆษณา เอเจนซี และผู้ใช้งานทั่วไป
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, macOS

5. Lightworks Free Edition

Lightworks เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ ที่ออกแบบมาสำหรับนักตัดต่อวิดีโอมือสมัครเล่นและมืออาชีพ มีคุณสมบัติขั้นสูงสำหรับการสร้างวิดีโอคุณภาพตัวโปรแกรมมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่สามารถทำงานแบบเรียลไทม์ คุณจึงอัปโหลดวิดีโอขึ้น YouTube, Facebook, Twitter ได้ทันที ทั้งยังสามารถปรับแต่ง template ของตัวโปรแกรมให้มีสีสันตามต้องการได้อีกด้วย

จุดเด่นของโปรแกรม Lightworks

• มี User Interface ที่ใช้งานง่าย ดีไซน์หน้าต่างตัดต่อดูเรียบหรู คลีน ซึ่งสำหรับผู้ใช้ที่แม้ไม่มีพื้นฐานด้านการตัดต่อวิดีโอก็สามารถเข้าใจวิธีใช้งานโปรแกรมได้โดยง่าย
• มีฟีเจอร์การตัดต่อและเอฟเฟกต์ต่างๆ ครบครันเกือบเทียบเท่าตัว Pro
Lightworks เหมาะกับผู้ใช้งานกลุ่มไหน?
• ครีเอเตอร์ นักการตลาด และผู้ใช้งานทั่วไป
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, macOS, Linux

ที่มา: dfastpass