1. Apple iTunes
โปรแกรมฟังเพลงยอดนิยมจากฝั่ง Apple ที่อยู่คู่กับ MacOS และ Windows มาอย่างยาวนาน รวมถึงยังใช้เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปสู่อุปกรณ์ Apple อย่าง iPhone, iPad และ iPod Touch อีกด้วย โดยจุดเด่นของโปรแกรม iTunes นี้มีมากมายตั้งแต่ ความสามารถในการรองรับการเล่นไฟล์เพลงที่หลากหลาย, การรองรับการบันทึกไฟล์เพลงจาก CD หรือ RIP ให้กลายเป็นไฟล์เสียงแบบต่างๆ ตั้งแต่ระดับ Lossy ไปจนถึงระดับ Lossless เลยทีเดียวเพื่อนำไปฟังในเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานเข้าถึงคลังเพลงระดับ Hi-Res Lossless อีกหลายล้านเพลงผ่านบริการออนไลน์อย่าง Apple Music หรือหากไม่รู้จะซื้อเพลงดิจิตอลเพื่อเก็บไว้ฟังจากที่ไหนโปรแกรม iTunes ก็ยังทำหน้าที่เป็นร้านค้าสำหรับขายเพลงดิจิตอลอีกด้วย ซึ่งการใช้งาน iTunes นั้นก็ง่ายดายมากๆ ด้วย UI ที่สวยงามและสะอาด และแน่นอนว่า iTunes นั้นเป็นโปรแกรมฟรีที่ใครก็สามารถดาวน์โหลตมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียเงินครับ
2. Winamp
โปรแกรมฟังเพลงในตำนานที่มีอายุอานามมามากกว่า 20 ปี หรือก็คือในยุคสมัยของการฟังเพลงดิจิตอลแบบ Mp3 ยุคแรกๆ ผู้ใช้งานหลายๆ คนก็น่าจะต้องมี Winamp อยู่ติดเครื่องกันอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นอย่าง UI การใช้งานที่ง่ายดาย สวยงาม สามารถดาวน์โหลต Theme มาเปลี่ยนได้หลากหลายทำให้การฟังเพลงนั้นสนุกมากขึ้น ด้านการจัดการเพลงก็เพียงลากไฟล์เพลงมาใส่ในโปรแกรมเพียงเท่านั้นโปรแกรมก็จะมีการจัดลิสท์เพลงที่เป็นระเบียบให้โดยอัตโนมัติ ด้านการเล่นเพลงนั้น Winamp รองรับไฟล์เพลงที่หลากหลายตั้งแต่ Lossy ไปจนถึง Lossless จะไฟล์ไหนก็เล่นได้หมดไม่มีปัญหา ทำให้ในอดีต Winamp นั้นได้รับความนิยมสูงมาก จนการมาถึงของเทคโนโลยีเล่นเพลงแบบ Cloud รวมถึงบริการ Streaming ต่างๆ ที่ทำให้ Winamp ได้รับความนิยมที่ลดลงจนหายไปพักใหญ่ๆ จนหลายๆ คนเชื่อว่าถึงเวลาสิ้นสุดของโปรแกรมเล่นเพลงในตำนาน ล่าสุดโปรแกรม Winamp ก็ฟื้นคืนชีพและกลับมาอีกครั้งโดยที่ยังเป็นโปรแกรมฟรีเช่นเดิม สามารถไปดาวน์โหลตมาใช้งานได้ตามต้องการครับ
3. Windows 11 Media Player
ในยุคที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 10 กำลังเฟื่องฟู โปรแกรมฟังเพลงที่เชื่อว่าบรรดาเหล่าคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows นั้นจะต้องมีติดเครื่องเลยก็คือ Groove Music Player อย่างแน่นอน เพราะโปรแกรม Groove Music Player นั้นพูดได้เลยว่าเป็นโปรแกรมเล่นเพลงที่เรียกได้ว่าถูกสร้างและออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบปฏิบัติการนี้โดยเฉพาะนั่นเอง เพราะโปรแกรมนี้ถูกสร้างโดย Microsoft เอง ซึ่งด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ข้อดีของ Groove Music Player คือ UI ที่สวยงามผสานไปกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งเมื่อมาถึงระบบปฏิบัติการ Windows 11 Groove Music Player ถูกเปลี่ยนชื่อให้กลายเป็น Windows 11 Media Player นั่นเองโดยยังคงไว้ในเรื่องของความสวยงามอย่างครบถ้วน รวมถึงด้านการใช้งานก็ยังง่ายมากๆ เรียกได้ว่าใช้งานได้ในทันที ไม่ต้องมีฟังก์ชันการใช้งานหรือการตั้งค่าใดๆ ให้วุ่นวาย ที่สำคัญด้านการจัดการลิสท์เพลงหรือ Playlist ต่างๆ ยังสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แบบที่ใครก็สามารถทำได้ แค่เปิดโปรแกรมแล้วก็ใช้งานได้ในทันทีไ่ต้องมีการเรียนรู้ใดๆ ให้วุ่นวาย ตัวโปรแกรมรองรับไฟล์เพลงที่หลากหลายตั้งแต่ Lossy ไปจนถึง Lossless และยังเป็นประตูไปสู่บริการ Streaming เพลงจากค่าย Microsoft ที่มีให้เลือกฟังสูงถึง 40 ล้านเพลงอีกด้วย
4. VLC Media Player
โปรแกรมฟังเพลงในตำนานอีกโปรแกรมที่อยู่มาอย่างยาวนานไม่แพ้กับโปรแกรมฟังเพลงอย่าง Winamp โดยมาพร้อมจุดเด่นมากมาย ตั้งแต่การรองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลายกว่าโปรแกรมเล่นเพลงอื่นๆ โดยรองรับทั้งระบบ Windows, MacOS รวมถึงยังรองรับ Linux อีกด้วย นอกจากนี้โปรแกรม VLC Media Player ยังรองรับการเล่นไฟล์เพลงที่หลากหลาย ครบถ้วน ตั้งแต่ไฟล์ในระดับ Lossy ไปจนถึงไฟล์ระดับ Lossless สามารถจัดเรียงลิสท์เพลงและรายชื่อเพลงได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยังรองรับการเล่นไฟล์ VDO อีกด้วย เรียกได้ว่าใครมีอะไรก็ลากมาใส่โปรแกรมได้เลยเพราะสามารถเล่นได้หมดทุกไฟล์อย่างแน่นอน นอกจากนี้ตัวโปรแกรมยังมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ใช่พื้นที่จัดเก็บที่ไม่สูงมากหรือพูดได้ว่าไม่หนักเครื่อง และยังมีส่วนเสริมหรือ Extension ให้ลงเพิ่มเติม เสริมความต้องการให้เติมเต็มได้อีกด้วย และที่สำคัญคือเป็นโปรแกรมฟรี ใครอยากใช้ก็สามารถไปดาวน์โหลตได้ตามสะดวกเลยครับ
5. Foobar2000
โปรแกรมฟังเพลง โปรแกรมสุดท้ายที่นำมาแนะนำกันในบทความนี้กับ Foobar2000 ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นโปรแกรมฟังเพลงที่มาแรงมากๆ ด้วยความสามารถที่จัดเต็มของทางโปรแกรมทำให้ผู้ใช้งานชื่นชอบและต่างเทใจกันให้โปรแกรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านชื่อของโปรแกรมที่แปลกไปกว่าโปรแกรมฟังเพลงอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจำได้อย่างง่ายดายและนำไปบอกต่อๆ กัน ในขณะเดียวกันด้านฟังก์ชันการใช้งานนั้นก็ให้มาแบบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการตั้งค่าและปรับแต่งแนวเสียงหรือ EQ ได้อย่างอิสระ ตอบโจทย์คนที่ไม่ถูกใจกับแนวเสียงแบบดั้งเดิม หรือหูฟังมีแนวเสียงที่ไม่ถูกใจและต้องการเปลี่ยนแนวเสียงให้เป็นไปในทางที่ตนเองชื่นชอบ และยังเป็น 1 ในไม่กี่โปรแกรมมฟังเพลงที่สามารถตั้งค่า Crossfade หรือก็คือการตั้งค่าช่องว่างเสียงระหว่างเปลี่ยนเพลงให้ช่วงที่เงียบสนิทนั้นลดลงเพื่อที่เวลาฟังเพลงนั้นจะได้มีการเปลี่ยนเพลงที่ลื่นไหล หากไม่ตั้งใจฟังก็จะแทบไม่รู้สึกเลยว่าเพลงนั้นถูกเปลี่ยนแล้วนั่นเอง ด้านการจัดการ Playlist หรือลิสท์เพลงในโปรแกรมนี้ก็สามารถจัดและสร้างได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถเลือกฟังเพลงได้อย่าง่ายดายไม่ขาดตอนเมื่อต้องเจอเพลงที่ไม่ได้อยากฟังเป็นพิเศษ รวมถึงด้าน UI การใช้งานก็ออกแบบมาให้มีความคลีน สวยงาม ใช้งานง่าย ดึงดูให้น่าใช้งานมากขึ้นอีกหลายเท่า และแน่นอนว่ารองรับการเล่นไฟล์เพลงที่หลากหลายและครับครันทั้ง MP3 , MP4 , WMA , FLAC , Speex , AU , SND และอื่นๆ
ที่มา: mercular