1. OBS Studio (Open Broadcaster Software)
รองรับทั้งระบบ Windows, Mac OS และ Linux
สามารถใช้งานได้ฟรีฟีเจอร์มีตัวช่วยในการไลฟ์ให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น เช่น การตั้งค่า Overlay หรือการรองรับภาพจากกล้องหลายตัวได้ และยังสามารถแชร์ไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Facebook และ YouTube
2. StreamYard จะมีฟีเจอร์ RTMP (Real Time Messaging Protocol)
ที่สามารถเลือกกำหนดได้เอง ว่าจะเพิ่มช่องทางอื่นในการเผยแพร่อีกไหม เช่น Amazon Live, Vimeo, Dacast และอื่น ๆ แต่สำหรับโปรแกรมนี้ที่ใช้งานแบบตัวฟรีจะรองรับการไลฟ์บนแพลตฟอร์มได้ทีละ 1 ช่องทาง เช่น Facebook, YouTube, Linkedln, Twitterิ แต่ข้อเสียคือโปรแกรมนี้ ให้ไลฟ์ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อเดือน
3. Restream
มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ซึ่งคิดค่าบริการเป็นรายเดือนและรายปี โปรแกรมสามารถรองรับไลฟ์สตรีมได้มากกว่า 30 ช่องทาง และยังมีโหมดปรับแต่ง Overlay ใส่ภาพพื้นหลัง ที่คุณอาจจะออกแบบเอง หรือเลือกใช้เทมเพลต ที่ทางโปรแกรมมีให้เลือกใช้ฟรีกว่า 20 แบบ
จุดเด่น : สามารถเปิดแบบ Multi stream คือสามารถเปิด 2 แพลตฟอร์มพร้อมกันได้ ืโปรแกรมแบบฟรีก็สามารถทำได้เช่นกัน และยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึก หรือ Insight ของผู้เข้าชมตลอดช่วงเวลาทำการไลฟ์
4. Melon
เป็นโปรแกรมที่เปิดบน Google Chrome สามารถไลฟ์โคไปยังแพลตฟอร์มอื่นได้ 1 ช่องทาง แต่มีระยะเวลาไลฟ์กำหนดไม่เกิน 4 ชั่วโมงต่อครั้ง และเชิญแขกรับเชิญขึ้นมาไลฟ์ร่วมกันสูงสุด 2 ท่าน
ข้อดี : สามารถปลดล็อกเป็น User-Friendly คลิกเพียง 5 ครั้งก็สามารถเริ่มไลฟ์สดได้แล้ว อีกหนึ่งฟังก์ชันคือสามารถเปิดรับ Donation จากผู้ชมได้
5. Page 365
เป็นระบบไลฟ์สดสำหรับสายแม่ค้าออนไลน์โดยเฉพาะ เพราะสามารถเชื่อมกับโซเชียลมีเดียทุกช่องทางทั้ง Facebook, LINE Official, Instagram และหน้าเว็บไซต์
ที่มา: salesarm