5 โปรแกรม Video Conference ที่ได้รับความนิยมสูง

1. โปรแกรม Zoom

โปรแกรม Zoom ถือได้ว่าเป็น โปรแกรมยอดนิยมที่ใช้สำหรับ Video Conference ตัวซอฟแวร์และแอปพลิเคชันที่พัฒนาและเปิดตัวในปี 2013 สามารถจัดประชุม สัมมนา สอนหนังสือ หรือ อีเว้นท์ต่างๆ ผ่านทางระบบออนไลน์ โดยผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต ถือว่าเป็นโปรแกรมที่นิยมมากในประเทศไทย และใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีระบบภาพและเสียงที่คมชัด

ความสะดวกสบายของการใช้งานโปรแกรม Zoom ผู้เข้าร่วมไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกของ Zoom ผู้สร้างห้อง สามารถเชิญให้เข้าร่วมประชุมโดยการส่ง URL หรือ Meeting ID มาให้ ซึ่งสามารถเข้าร่วมประชุมได้ 3 รูปแบบ คือ

1.ผ่านซอฟแวร์ Zoom บน PC/MacOS

2.ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Opera, Microsoft Edge เป็นต้น

3.ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือหรือแท็บเล็ต

โดยในระหว่างประชุมสามารถแชร์หน้าจอภาพของเราให้ผู้ที่ร่วมประชุมได้ หรือให้ผู้ร่วมประชุมสามารถควบคุมอุปกรณ์ของเราในระยะไกลได้ เป็นโปรแกรมที่สามารถประชุมออนไลน์พร้อมกันได้สูงสุด 100 คน สามารถประชุมได้ 40 นาที ในรูปแบบที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่สามารถอัพเกรดขึ้นได้หลายระดับโดยสามารถปลดล็อกการจำกัดเวลา สามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมได้มากสุดถึง 1000 คน สามารถบันทึกการประชุมเก็บไว้บน Cloud

ซึ่งขณะนี้ได้รับความนิยมมากในการนำไปใช้สอนหนังสือออนไลน์สำหรับโรงเรียน ใช้ประชุมภายในและระหว่างองค์กร หรือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับการจัดคอนเสิร์ตออนไลน์

2. โปรแกรม Microsoft Teams

โปรแกรม Microsoft Teams เป็นซอฟแวร์ โปรแกรมยอดนิยมที่ใช้สำหรับ Video Conference ของทาง Microsoft เป็นโปรแกรมที่ใช้สื่อสารในระดับองค์กรที่โดดเด่นสำหรับการทำงานร่วมกับ Microsoft Office 365 ผู้ใช้งานสามารถใช้ Microsoft Teams ในเวอร์ชั่นฟรีโดยสามารถรองรับผู้ใช้งานสูงสุด 250 คน และ Live Broadcast 10,000 คน หากผู้ใช้งานมี Office 365 ตัวเวอร์ชั่นเต็มอยู่แล้ว ก็สามารถอัพเกรด Microsoft Teams ให้เป็นเวอร์ชั่นเต็มได้เลย

Microsoft Teams สามารถใช้งานโปรแกรมได้แทบทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Windows/MacOS/Linux/iOS/Android สามารถใช้งานบนเว็บเบราว์เซอร์ได้เลย หรือ จะโหลดแอปพลิเคชันติดตั้งบนเครื่องก็ได้

ตัวโปรมแกรมยังสามารถแชร์หน้าจอ หรือ ส่งไฟล์ขนาดสูงสุด 15GB สามารถแก้ไขไฟล์ Word | Excel | PowerPoint ภายใน Teams ได้พร้อมกันออนไลน์สูงสุด 100 คน โดยไม่ต้องโหลดไฟล์ลงเครื่องก่อน ส่วนการใช้งานผู้ใช้งานต้องมี Account ของ Hotmail หรือ Outlook ก่อนเพื่อล็อกอินเข้าใช้งาน

3. โปรแกรม Google Meet

Google Meet โปรแกรมยอดนิยมที่ใช้สำหรับ Video Conference อีกโปรแกรม เป็นผลิตภัณฑ์ของ Google โดยเป็นแฟลตฟอร์มสำหรับใช้ประชุมออนไลน์ที่ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วมสูงสุดได้ 100 คน และใช้งานได้ 60 นาทีต่อครั้ง ขณะที่ผู้ใช้ระดับองค์กร หรือ สถาบันการศึกษา สามารถอัพเกรดระดับความสามารถของโปรแกรมได้ ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วมประชุมสูงสุด 250 คนสามารถ Live Stream ออนไลน์ได้ 100,000 คน และไม่จำกัดเวลา

การใช้งาน Google Meet จำเป็นต้องมี Account ของ Google ก่อนสำหรับใครที่ใช้ Gmail, Google Photo, Youtube ก็สามารถใช้ Account เดิมได้เลย โดยการใช้งาน Google Meet สามารถเข้าใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ หรือ แอปพลิเคชัน โดย Google Meet สามารถแชร์หน้าจอการนำเสนอหรือการใช้ไวท์บอร์ดร่วมกับการประชุม และ ยังสามารถนำภาพการประชุมไปแสดงผลบนจอทีวีสำหรับการประชุมใน ห้องประชุม

4. โปรแกรม Cisco Webex

โปรแกรม Cisco Webex โปรแกรมที่ใช้สำหรับ Video Conference ของบริษัท Cisco บริษัทระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์คระดับโลก สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 100 คน จำนวน 40 นาที สามารถอัพเกรดเพิ่มเพื่อรองรับสูงสุด 1,000 คน โดย Cisco Webex ประกอบเป็น 3 ส่วน ได้แก่

1. Webex Meetings เหมาะสำหรับการประชุม สามารถแชร์หน้าจอ, เขียนหน้าจอ, บันทึกการประชุม
2. Webex Training สามารถรองรับผู้เข้าร่วมสูงสุดได้ 1,000 คน เหมาะสำหรับ การเรียนออนไลน์, จัดคอร์สสัมมนา มีปุ่มสำหรับหรับยกมือเพื่อขออนุญาตถามคำถาม หรือ คนที่เป็น Host สามารถกำหนดการเปิด-ปิดไมค์ของผู้เข้าร่วมได้ สามารถสร้างการประชุมกลุ่มย่อยได้ สามารถทำ Test ออนไลน์ได้ และยังบันทึกเป็นไฟล์ mp4 ได้อีกด้วย
3. Webex Events สามารถรองรับผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 1,000 คน เหมาะสำหรับการจัดอีเว้นท์ต่าง ๆ เช่น การจัดแสดงคอนเสิร์ตออนไลน์, การเปิดตัวสินค้าออนไลน์ และ สามารถนำขึ้น Facebook Live ได้

5. โปรแกรม Skype for Business

โปรแกรมยอดนิยมที่ใช้สำหรับ Video Conference ตัวสุดท้ายก็คือ โปรแกรม Skype for Business ซึ่งถูกซื้อจาก Microsoft ด้วยเงิน 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นโปรแกรมที่ขยายออกมาจาก Skype ซึ่ง Skype สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้เพียง 25 คน จึงพัฒนามาเป็น Skype for Business ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางไปถึงใหญ่ ซึ่งช่วยให้จัดการบัญชีของผู้เข้าร่วมใช้งานร่วมกับแอป Office ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Skype for Business สามารถรองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 250 คน และ สามารถทำงานร่วมกับ Microsoft 365, Outlook และ SharePoint ได้อย่างสมบูรณ์ รองรับการส่งข้อความได้ตลอดเวลา สามารถบันทึกการประชุม การประชุมมีความปลอดภัยสูงถูกเข้ารหัสด้วย AES Skype for Business

ที่มา: liveforsound